I/ ข้อกำหนดสำหรับการนำสัมภาระขึ้นเครื่อง:
สัมภาระขึ้นเครื่องต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดดังนี้:
1. น้ำหนักสัมภาระขึ้นเครื่อง:
ผู้โดยสาร 1 ท่าน (ยกเว้นทารกที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี) สามารถนำสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น และกระเป๋าถือขนาดเล็ก 1 ใบ น้ำหนักรวมกันต้องไม่เกิน 7 กก.
2. ขนาดสัมภาระขึ้นเครื่อง:
- ขนาดไม่เกิน 56 ซม. × 36 ซม. × 23 ซม.
- กระเป๋าถือขนาดเล็ก รวมถึงรายการต่อไปนี้
+01กระเป๋าถือสุภาพสตรี หนังสือ นิตยสาร กล้อง อาหารเด็ก ถุงสินค้าปลอดภาษี หรือสัมภาระอื่นๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 30 ซม. x 20 ซม. × 10 ซม.
+01 ถุงคลุมสูท/ถุงสัมภาระ ขนาดไม่เกิน 114 ซม. × 60 ซม. × 11 ซม.
+01 กระเป๋าคอมพิวเตอร์พกพา (แลปท๊อป) ขนาดไม่เกิน 40 ซม. × 30 ซม. × 10 ซม.
3. แท็กติดกระเป่าสัมภาระ:
สัมภาระขึ้นเครื่องที่ไม่ติดแท็กของสายการบิน Vietjetair จะไม่ได้รับอนุญาตให้นำสัมภาระขึ้นเครื่องบิน เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวก โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัมภาระขึ้นเครื่องของท่านถูกติดแท็กโดยเจ้าหน้าที่ของสายการบินที่เคาน์เตอร์เช็คอินแล้ว
4. ของเหลวพกพาขึ้นเครื่องบิน
ตามกฎหมายและข้อบังคับที่อนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถนำของเหลวขึ้นเครื่องได้ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
4.1) ของเหลวต้องอยู่ในภาชนะบรรจุขนาดแต่ละชิ้นไม่เกิน 100 มล.
4.2) ของเหลวที่นำขึ้นเครื่องบินจำเป็นต้องบรรจุในถุงพลาสติกซิปล๊อคใสและสามารถ ปิด-เปิดผนึกได้ โดยของเหลวต้องมีปริมาตรรวมกันไม่เกิน 1,000 มล.
4.3) ถุงพลาสติกที่บรรจุของเหลวอาจถูกตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย ท่านอาจจำเป็นต้องทิ้งของเหลวนั้นหากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามที่กำหนด
ข้อควรทราบ:
-สัมภาระขึ้นเครื่องจะต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อบังคับของสายการบินและจะต้องสามารถใส่ในชั้นวางเหนือศีรษะหรือใต้ที่นั่งด้านหน้าของท่านได้สัมภาระที่มีน้ำหนักหรือขนาดเกินกว่าที่กำหนดจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง
- ขนาดและน้ำหนักกระเป๋าถืออาจถูกตรวจสอบอีกครั้งที่ประตูขึ้นเครื่อง.หากสัมภาระขึ้นเครื่องของท่านไม่เป็นไปตามข้อบังคับท่านจำเป็นต้องซื้อน้ำหนักสัมภาระลงทะเบียนเพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องหรือสัมภาระของท่านอาจถูกปฏิเสธการขนส่ง
-ราคาน้ำหนักสัมภาระที่เคาน์เตอร์เช็คอินและทางออกขึ้นเครื่องจะสูงกว่าการซื้อล่วงหน้าก่อนการเดินทาง สายการบินขอแนะนำให้ท่านซื้อน้ำหนักสัมภาระล่วงหน้าก่อนการเดินทาง และจะถูกแปลงเป็นสกุลเงินท้องถิ่น
ท่านสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมของเราได้ที่นี่ >>
II/ ข้อบังคับสำหรับสัมภาระใต้ท้องเครื่อง:
1. สัมภาระใต้ท้องเครื่องขนาดมาตรฐาน
ท่านสามารถซื้อน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่องล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ สำนักงานขายตั๋ว ตัวแทนจำหน่าย หรือศูนย์บริการลูกค้าของสายการบิน สำหรับผู้โดยสารที่ทำการซื้อล่วงหน้าจะได้รับราคาที่ถูกกว่าจากการซื้อที่เคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบิน
2. สัมภาระใต้ท้องเครื่องที่มีขนาดใหญ่ (เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2020)
บริการนี้สงวนสิทธิ์เฉพาะเที่ยวบินที่ให้บริการโดยสายการบินเวียตเจ็ทแอร์ (VJ)
+ น้ำหนักต้องไม่เกิน 32 กิโลกรัมต่อชิ้น
+ ขนาดไม่เกิน 200 ซม. × 119 ซม. × 81 ซม
แพคเกจสัมภาระขนาดใหญ่จองล่วงหน้ารวมค่าสัมภาระใต้ท้องเครื่องและค่าธรรมเนียมบริการสัมภาระขนาดใหญ่แล้ว
คุณสามารถซื้อแพคเกจสัมภาระขนาดใหญ่บนเว็บไซต์ ตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารหรือศูนย์บริการลูกค้าของสายการบินผู้โดยสารที่ทำการจองล่วงหน้าจะได้รับราคาที่ถูกกว่าจากการซื้อที่เคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบิน
* ข้อสังเกต:
+ ผู้โดยสารที่จองกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ล่วงหน้าจะได้รับอนุญาตให้เช็คอินสัมภาระที่มีน้ำหนักรวมของแพ็คเกจที่ซื้อรวมถึง1ชิ้นขนาดใหญ่/ผู้โดยสาร/เที่ยวบินส่วนที่เหลือของแพคเกจยังคงสามารถใช้สำหรับกระเป๋าเดินทางเช็คอินปกติ
+ ชิ้นส่วนขนาดใหญ่เพิ่มเติมจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการพิเศษที่สนามบินในอัตราที่สูงขึ้น ผู้โดยสารแต่ละคนได้รับอนุญาตให้เช็คอินชิ้นส่วนที่เกินขนาดได้สูงสุด2ชิ้นและอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการใช้งานจริงที่สนามบินผู้โดยสารต้องแน่ใจว่าซื้อสัมภาระน้ำหนักเพียงพอที่ตรวจสอบแล้วซึ่งมีสิทธิ์นำไปใช้กับบริการสัมภาระที่มีขนาดใหญ่
3. กฏระเบียบเกี่ยวกับสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
สำหรับสัมภาระใต้ท้องเครื่องที่ขัดกับกฎข้อบังคับ ทางสายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการขนส่งสัมภาระหรือสิ่งของดังต่อไปนี้:
1. สิ่งของที่ไม่ได้ถูกจัดเก็บอย่างเหมาะสมในกระเป๋าเดินทาง หรือไม่ได้ถูกบรรจุในภาชนะที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง
2. สิ่งของที่สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อเครื่องบิน บุคคล ทรัพย์สินในเครื่อง เช่น สิ่งของที่ถูกระบุไว้ในกฏข้อบังคับรายการสิ่งของอันตรายขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และเงื่อนไขการขนส่งและพันธสัญญาของสายการบิน
3. สิ่งของต้องห้ามตามกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่งของรัฐ หรือประเทศต้นทางและปลายทาง หรือประเทศที่เป็นจุดแวะพัก
4. สิ่งของที่ไม่เหมาะสำหรับการขนส่งตามวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่สายการบิน เนื่องจากน้ำหนัก รูปร่างขนาด หรือคุณสมบัติของสิ่งของนั้นๆ
5. สิ่งของที่เปราะบางหรือเน่าเสียง่าย
6. สัตว์ที่มีชีวิตหรือตายแล้ว
7. ซากมนุษย์หรือซากสัตว์
8. อาหารทะเล/เนื้อสัตว์ ทั้งแบบสดและแช่แข็ง สามารถขนส่งเป็นสัมภาระขึ้นเครื่องได้หากถูกบรรจุอย่างเหมาะสม เช่น บรรจุในกล่องโฟมหรือภาชนะเก็บความเย็น โดยจะได้รับอนุญาตหลังจากที่ถูกตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากผู้โดยสารปฏิเสธที่จะให้ตรวจสอบ สายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการขนส่งสัมภาระของท่าน
9. อาวุธปืนและกระสุน
10. วัตถุระเบิด แก๊สไวไฟ แก๊สที่ไม่ติดไฟ (เช่นสีสเปรย์ละออง, ก๊าซบิวเทน, แก๊สเบา) ก๊าซแช่เย็น (เช่นถังออกซิเจนสำหรับใช้ใต้น้ำ, ไนโตรเจนเหลว), ของเหลวไวไฟ (เช่นสี, ทินเนอร์, ตัวทำละลาย) ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ค สารประกอบออกซิเจนอินทรีย์ (เช่นเรซิน) สารพิษ สารติดเชื้อ (เช่น ไวรัส แบคทีเรีย) สารกัมมันตรังสี (เช่นเรเดียม) สารกัดกร่อน (เช่น กรด อัลคาไลน์ ปรอท ปรอทวัดอุณหภูมิ) วัสดุแม่เหล็ก และวัสดุออกซิไดซ์ (เช่น สารฟอกขาว)
11.อาวุธเช่นปืนดาบมีดโบราณและของที่คล้ายกันสิ่งของดังกล่าวอาจได้รับอนุญาตให้ขนส่งแบบสัมภาระใต้ท้องเครื่องหรือปฏิเสธการขนส่ง โดยขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่
สิ่งของมีค่าและแตกหักง่าย
ผู้โดยสารไม่ควรโหลดสิ่งของเหล่านี้เป็นสัมภาระใต้ท้องเครื่องหากท่านต้องการโหลดเป็นสัมภาระใต้ท้องเครื่อง ท่านจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง สิ่งของมีค่าเหล่านี้รวมถึง เงินเครื่องประดับ วัตถุมีค่า เครื่องเงิน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ กล้อง กล้องวิดีโอ เอกสารสำคัญ รวมถึงหนังสือเดินทางและบัตรประชาชน
สิทธิ์ในการตรวจค้น
เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยสายการบินขอความร่วมมือในการตรวจสัมภาระผ่านการเอ็กซเรย์หรือการตรวจคัดกรองรูปแบบอื่นสายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบสัมภาระของท่านกรณีที่ท่านไม่อยู่และสายการบินไม่สามารถตามหาท่านได้พบเพื่อเป็นการตรวจสอบว่าท่านมีสิ่งของมีต้องห้ามหรือไม่หากท่านปฏิเสธที่จะได้รับการตรวจสอบหรือคัดกรองสายการบินขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการให้บริการแก่ท่านและขนส่งสัมภาระนเที่ยวบินนั้นๆโดยไม่มีการคืนเงินหรือรับผิดชอบใดๆกรณีที่ท่านได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายต่อสัมภาระระหว่างการตรวจสอบหรือคัดกรองสายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อการบาดเจ็บหรือความเสียหายใดๆหากสิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดหรือความประมาทของสายการบิน
ขั้นตอนการขนส่งสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
หลังจากผู้โดยสารลงทะเบียนสัมภาระใต้ท้องเครื่องแล้วทางสายการบินจะทำการตรวจสอบสายการบินจะติดแท็กที่สัมภาระแต่ละชิ้นสัมภาระใต้ท้องเครื่องจะต้องถูกระบุชื่อข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารสัมภาระใต้ท้องเครื่องจะถูกขนส่งบนเที่ยวบินเดียวกันกับผู้โดยสารเว้นแต่ทางสายการบินตัดสินใจที่จะขนส่งสัมภาระในเที่ยวบินอื่นด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยหรือเหตุผลด้านการดำเนินการอื่นๆหากสัมภาระใต้ท้องเครื่องถูกขนส่งในเที่ยวบินอื่นสายการบินจะส่งมอบสัมภาระให้ท่านในเวลาที่เหมาะสมเว้นแต่ว่าท่านจะต้องแสดงตนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนศุลกากรตามกฎหมาย
ค่าธรรมเนียมสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
ค่าธรรมเนียมสัมภาระจะถูกเรียกเก็บเฉพาะสัมภาระลงทะเบียนใต้ท้องเครื่องผู้โดยสารสามารถซื้อน้ำหนักสัมภาระได้หนึ่งแพ็คเกจเท่านั้น ผู้โดยสารสามารถซื้อสัมภาระที่บรรจุใต้ท้องเครื่องได้ในระดับ 15 กก., 20 กก., 25กก.,30กก.,35กก.และ40กก. และสัมภาระที่บรรจุในสัมภาระขนาดใหญ่พิเศษขนาด 20 กก., 30 กก (ผู้โดยสารสามารถอัพเกรดเป็นสัมภาระหนักขึ้นก่อน3ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง) หากสัมภาระใต้ท้องเครื่องมีน้ำหนักมากกว่าแพ็คเกจที่ท่านซื้อไว้ท่านต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมต่อกิโลกรัมที่เคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบินท่านสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่าธรรมเนียมสัมภาระไม่สามารถคืนและถ่ายโอนได้.
การจัดส่งสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
ผู้โดยสารจะได้รับสัมภาระใต้ท้องเครื่องเมื่อถูกขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางหากท่านไม่รับสัมภาระภายในระยะเวลาที่เหมาะสมทางสายการบินจำเป็นต้องเก็บสัมภาระไว้ให้โดยท่านอาจถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเก็บรักษาหากท่านไม่มาติดต่อรับสัมภาระภายใน2เดือนสายการบินจะกำจัดสัมภาระดังกล่าวโดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆผู้โดยสารที่มาติดต่อรับสัมภาระจำเป็นต้องแสดงแท็กสัมภาระสายการบินจะส่งมอบสัมภาระให้กับผู้โดยสารที่สามารถพิสูจน์ความเป็นเจ้าของสัมภาระได้เท่านั้น หากคุณไม่สามารถแสดงแท็กสัมภาระที่จุดรับสัมภาระ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายในการจัดส่งสัมภาระคืนให้ท่านการรับคืนสัมภาระของผู้โดยสารถือเป็นการยืนยันว่าเจ้าของสัมภาระได้รับการส่งมอบสัมภาระในสภาพที่ดีและเป็นไปตามข้อกำหนดการขนส่ง
* ข้อควรทราบ:
- ทารก (อายุต่ำกว่า 2 ปี) ไม่ได้รับอนุญาตให้พกสัมภาระขึ้นเครื่อง ยกเว้น รถเข็นเด็ก รถเข็นคนพิการ อุปกรณ์ค้ำยัน หรืออุปกรณ์ช่วยในการเคลื่อนที่ สามารถขนส่งได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- เพื่อเหตุผลด้านสุขภาพและความปลอดภัยเราจะไม่ยอมรับรายการใด ๆ ที่มีน้ำหนักมากกว่า 32 กก. และขนาดเกิน 200 ซม. x 119 ซม. x 81 ซม.
-สำหรับสัมภาระขนาดใหญ่(อุปกรณ์กีฬา)สามารถถูกขนส่งโดยจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระหลังจากชำระค่าธรรมเนียมการขนส่งที่ระบุไว้ในตารางค่าธรรมเนียมโดยมีข้อจำกัดความรับผิดชอบเป็นไปตามสัมภาระใต้ท้องเครื่องภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่กำหนดโดยสายการบินผู้โดยสารสามารถซื้อประกันเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความคุ้มครองสำหรับสัมภาระดังกล่าวได้
-สำหรับเครื่องดนตรีที่มีขนาดเกินกว่าชั้นเก็บสัมภาระเหนือศีรษะผู้โดยสารสามารถเลือกที่จะลงทะเบียนบริการสัมภาระขนาดใหญ่หรือซื้อที่นั่งเพิ่มบนเครื่องบินได้โดยน้ำหนักของเครื่องดนตรีต้องไม่เกิน75กิโลกรัมและขนาดต้องไม่เกิน 165 ซม. x 44 ซม. x 66 ซม. กรณีที่ผู้โดยสารซื้อที่นั่งเพิ่มเติมจะ
ไม่มีค่าธรรมเนียมน้ำหนักสัมภาระ